ประวัติ ของ คริสเตียน เคจ

ในปี 2009 คริสเตียนได้กลับมาWWEสังกัดECWและคว้าแชมป์ ECWได้จากทอมมี ดรีเมอร์ในไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2009) จนเป็นแชมป์ ECW 2 สมัยก่อนที่จะเสียให้อีซีคีล แจ็กสัน ในECWตอนสุดท้าย 16 กุมภาพันธ์ 2010[17] จากนั้น ECW ได้ถูกยุบและเปลี่ยนเป็นรายการNXT คริสเตียนก็ได้ย้ายไปสังกัดสแมคดาวน์[18] ในสแมคดาวน์ (24 กันยายน 2010) คริสเตียนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหน้าอกจากการถูกอัลเบร์โต เดล รีโอใส่ท่า Cross Arm Breaker จนได้รับบาดเจ็บและต้องเข้ารับการผ่าตัด ทำให้ต้องพักการปล้ำเป็นเวลานาน[19]

ในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2011) คริสเตียนได้มาปรากฏตัวหลังจากเอดจ์ กำลังถูกเดล รีโอ ลอบทำร้าย คริสเตียนวิ่งออกมาและใส่ท่าคิลสวิตช์ เล่นงานเดล รีโอ[20] ในสแมคดาวน์ คริสเตียนได้จับคู่กับเอดจ์ เจอกับ เดล รีโอ และโบรดัส เคลย์ สุดท้ายเอดจ์และคริสเตียนเป็นฝ่ายชนะ ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 เอดจ์ต้องป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวทกับเดล รีโอ โดยคริสเตียนยืนอยู่ข้างเวทีของเอดจ์ สุดท้ายเอดจ์ก็สามารถป้องกันแชมป์เอาไว้ได้[21] แต่หลังจากนั้นไม่นานในรอว์ 11 เมษายน เอดจ์ได้ประกาศเลิกปล้ำ เพราะมีอาการบาดเจ็บ และขอสละแชมป์เฮฟวี่เวทในสแมคดาวน์ 15 เมษายน คริสเตียนได้เข้าร่วมแบทเทิลรอยัล เพื่อหาผู้ชนะไปเจอกับอัลเบร์โต เดล รีโอ ในการชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวทแทนเอดจ์ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2011) และคริสเตียนก็เป็นผู้ชนะและได้เป็นผู้ท้าชิงพร้อมกับเดล รีโอในแมตช์ไต่บันไดชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวทในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ สุดท้ายคริสเตียนก็สามารถคว้าแชมป์โลกเป็นสมัยแรก แต่ไม่นานในสแมคดาวน์ 6 พฤษภาคม หลังจากเอ็กซ์ตรีมรูลส์ แค่ 2 วัน คริสเตียนก็เสียแชมป์ให้กับแรนดี ออร์ตัน ซึ่งคริสเตียนครองแชมป์โลกสมัยแรกได้เพียง 5 วันเท่านั้น[22] จากนั้นคริสเตียนได้ขอท้าชิงแชมป์กับออร์ตันในโอเวอร์ เดอะ ลิมิต (2011) แต่ก็ไม่สำเร็จ[23]

ในสแมคดาวน์ 3 มิถุนายน คริสเตียนได้เป็นกรรมการพิเศษคู่ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวทระหว่างออร์ตันกับเชมัส และเป็นออร์ตันที่ป้องกันแชมป์ได้ แต่หลังจากจบแมตช์คริสเตียนได้เอาเข็มขัดแชมป์ตีใส่หัวออร์ตัน และกลายมาเป็นฝ่ายอธรรม ในแคปิเทล พูนิชเมนท์ คริสเตียนได้ขอรีแมตช์ชิงแชมป์กับออร์ตันแต่ก็ไม่สำเร็จ[24] ก่อนจะขอท้าชิงอีกครั้งในมันนีอินเดอะแบงก์ (2011) โดยถ้าออร์ตันทำผิดกฎิตาหรือตามคำสั่งของกรรมการเข็มขัดจะตกเป็นของคริสเตียนทันที สุดท้ายออร์ตันก็ทำผิดกฎิตาโดยการเตะผ่าหมากของคริสเตียน ทำให้คริสเตียนชนะฟาล์วและคว้าเข็มขัดแชมป์โลกสมัยที่ 2 หลังแมตช์ถูกออร์ตันเล่นงานเละก่อนจะ RKO บนโต๊ะผู้บรรยาย แล้วก็เดินกลับไป แต่เปลี่ยนใจกลับมา RKO บนโต๊ะซ้ำอีกรอบ และถูกหามกลับไปหลังเวที[25] ในซัมเมอร์สแลม (2011) ก็เสียแชมป์ให้กับออร์ตันในแบบไม่มีกฎกติกา[26] ต่อมาได้เปิดศึกกับเชมัสและเจอกันในเฮลอินเอเซล (2011) แต่ก็แพ้[27] และรีแมตช์ในเวนเจินส์ (2011) แต่ก็แพ้ไป 2 ครั้งติดต่อกัน[28] ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2011) คริสเตียนได้เข้าร่วมทีมของเวด บาร์เร็ตต์เจอกับทีมของออร์ตันแบบประเพณี 5 ต่อ 5 คัดออก แต่ก่อนหน้านั้นคริสเตียนได้รับบาดเจ็บที่คอจากการถูกบิ๊กโชว์เล่นงานด้วยท่าโชคสแลม[29] และได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าจากการปล้ำที่ยุโรป ทำให้ต้องถอนตัวออกจากแมตช์โดยให้ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์เข้าร่วมแทน[30]

ในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2012) คริสเตียนได้ออกมาสนับสนุนจอห์น ลอรีไนติส ให้เป็นผู้จัดการทั้งรอว์ และสแมคดาวน์ พร้อมกับ อัลเบร์โต เดล รีโอ และมาร์ก เฮนรี ที่ออกมาสนับสนุนให้กับโลรีนายติส ด้วยเช่นกัน คริสเตียนบอกว่าเขาถูกเชมัสกข้อเท้า และยังถูกบิ๊กโชว์อัดจนคอแทบหักแต่ ทีโอดอร์ ลอง ก็ยังบังคับให้เขาออกไปปล้ำจนต้องเจ็บซ้ำอีก ดังนั้นเขาจึงขอสนับสนุนให้โลรีนายติสมาเป็นผู้จัดการแทน จากนั้นทุกคนก็ร่วมถ่ายรูปหมู่กันเพื่อประสานความสัมพันธ์ที่ดี[31] ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 คริสเตียนได้เข้าร่วมทีมของโลรีนายติส เจอกับทีมของทีโอดอร์ ลอง ในแมตช์แทกทีม 12 คน แต่ว่าคริสเตียนได้รับบาดเจ็บจากการถูกซีเอ็ม พังก์ เล่นงานในรอว์สุดท้ายก่อนเรสเซิลเมเนีย 26 มีนาคม จนต้องหมดสิทธิ์ ซึ่งแท้จริงแล้วอาการบาดเจ็บของคริสเตียนนั้นยังไม่หายดี[32] ในโอเวอร์เดอะลิมิต (2012) คริสเตียนได้กลับมาเป็นฝ่ายธรรมะอีกครั้ง และได้เข้าร่วม "People Power" แบทเทิลรอยัล 20 คน ผู้ชนะจะได้สิทธิ์เลือกในการชิงแชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัลหรือแชมป์ยูเอส และคริสเตียนก็ได้เป็นผู้ชนะและได้เลือกที่จะชิงแชมป์อินเตอร์กับเจ้าของแชมป์ โคดี โรดส์ คืนเดียวกันคริสเตียนก็คว้าแชมป์จากโคดีมาได้[33] ก่อนเสียแชมป์ให้กับเดอะมิซในรอว์ ตอนที่ 1000[34]

ในรอว์ 29 กรกฎาคม 2013 คริสเตียนได้เอาชนะอัลเบร์โต เดล รีโอ เจ้าของแชมป์โลกเฮฟวี่เวทไปได้[35] ในสแมคดาวน์ 2 สิงหาคม ผู้จัดการทั่วไปสแมคดาวน์คนใหม่ วิกกี เกร์เรโร ได้จัดแมตช์สามเส้าเพื่อหาผู้ท่าชิงแชมป์กับเดล รีโอในซัมเมอร์สแลม (2013) โดยมี แรนดี ออร์ตัน, คริสเตียน และร็อบ แวน แดม ผลปรากฏว่าคริสเตียนเอาชนะไปได้ หลังแมตช์เดล รีโอได้เข้ามาเล่นงานคริสเตียน[36] ในซัมเมอร์สแลม คริสเตียนก็ไม่สามารถคว้าแชมป์โลกเฮฟวี่เวทจากเดล รีโอมาได้[37] ในสแมคดาวน์ 31 มกราคม 2014 คริสเตียนได้เอาชนะแจ็ก สแวกเกอร์ และได้สิทธิ์เข้าร่วมแมตช์อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWE ในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2014) แต่ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้[38] ในปลายเดือนมีนาคม 2014 คริสเตียนได้รับบาดเจ็บศีรษะกระทบกระเทือน ทำให้ต้องพักการปล้ำอีกครั้ง[39][40][41]

หลังจากที่ได้หายจากอาการบาดเจ็บ แต่ก็ไม่ได้ขึ้นปล้ำอีกเลย สาเหตุเป็นเพราะ WWE มองว่าคริสเตียนมีสภาพร่างกายที่เปราะบางจนเกินไป WWE ไม่มีแผนจะใช้งานในเนื้อเรื่องใดๆ เนื่องจากบาดเจ็บบ่อยเกินไป จากอายุอานามที่มากขึ้นจนหลายๆคนมองว่าเขาไม่น่าจะยืนระยะเป็นนักมวยปล้ำฟูลไทม์ได้อีกต่อไป WWE ยังคงอยากจะเก็บคริสเตียนเอาไว้ทำหน้าที่อื่นต่อไป[42][43] วันที่ 27 ตุลาคม 2015 WWE ได้ย้ายหน้าประวัติบนเว็บ WWE.COM ของคริสเตียนไปอยู่หน้าศิษย์เก่า(Alumni)แล้ว แต่ยังคงอยู่ภายใต้สัญญากับ WWE[2] วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2016 คริสเตียนกับเอดจ์ได้จัดรายการ The Edge and Christian Show ทาง WWE Network[44] วันที่ 11 พฤษภาคม 2016 WWE ได้ยกเลิกสัญญากับคริสเตียนแล้ว[45][46]

ในช่วงต้นปี 2021 คริสเตียนได้กลับมาขึ้นปล้ำให้กับ WWE เฉพาะกิจในแมตช์รอยัลรัมเบิลโดยออกมาเป็นลำดับที่ 24 แต่ไม่ชนะ[47][48] ก่อนที่จะเซ็นสัญญาปล้ำให้กับ AEW ในเวลาต่อมาโดยใช้ชื่อ คริสเตียน เคจ[49][50] และได้คว้าแชมป์โลกอิมแพ็คจากเคนนี โอเมกาในศึก AEW Rampage ตอนแรกวันที่ 13 สิงหาคม 2021[51]

แหล่งที่มา

WikiPedia: คริสเตียน เคจ http://slam.canoe.ca/Slam/Wrestling/2011/02/20/173... http://slam.canoe.ca/Slam/Wrestling/2011/03/19/176... http://slam.canoe.ca/Slam/Wrestling/Bios/christian... http://slam.canoe.ca/Slam/Wrestling/PPVReports/200... http://slam.canoe.ca/Slam/Wrestling/PPVReports/201... http://slam.canoe.ca/Slam/Wrestling/PPVReports/201... http://slam.canoe.ca/Slam/Wrestling/Reviews/2007/1... http://www.bodyslamming.com/tna/christian.html http://www.imdb.com/name/nm0720354/ http://www.onlineworldofwrestling.com/profiles/c/c...